Bela Lugosi's Dead แสดงถึงความเยือกเย็นของการสังหารและความลุ่มหลงในอดีตอันมืดมิด

Bela Lugosi's Dead แสดงถึงความเยือกเย็นของการสังหารและความลุ่มหลงในอดีตอันมืดมิด

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบดนตรีแนวインダストリアル (Industrial) ที่เต็มไปด้วยความหดหู่ โศกนาฏกรรม และความท้าทายต่อขนบธรรมเนียม “Bela Lugosi’s Dead” ของ Bauhaus เป็นผลงานที่ควรค่าแก่การค้นพบ เพลงนี้ไม่ใช่เพียงแค่บทเพลงเท่านั้น แต่เป็นประตูสู่โลกของดนตรีอัลเตอร์เนทีฟที่มืดมนและลึกลับ

ก่อนที่จะดำดิ่งลงไปในความมหัศจรรย์ของ “Bela Lugosi’s Dead” เรามาทำความรู้จักกับวง Bauhaus กันก่อน Bauhaus ก่อตั้งขึ้นในน็อตทิงแฮม ประเทศอังกฤษ ในปี 1978 โดย Peter Murphy (ร้องนำ) Daniel Ash (กีตาร์), Kevin Haskins (กลอง) และ David J (เบส) วงดนตรีนี้ถือเป็นหนึ่งในวงบุกเบิกของแนว Gothic Rock และ Industrial

“Bela Lugosi’s Dead” ถูกปล่อยออกมาในปี 1979 เป็นซิงเกิลแรกของ Bauhaus และกลายเป็นเพลงที่สร้างความฮือฮาและได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวาง มันถูกบันทึกขึ้นที่ Southern Studios ในลอนดอนโดย Colin Newman ซึ่งเป็นโปรดิวเซอร์จากวง Wire

การวิเคราะห์ “Bela Lugosi’s Dead” : ความงดงามในความหดหู่

เพลงนี้มีความยาวเกือบ 10 นาที และเต็มไปด้วยองค์ประกอบดนตรีที่น่าสนใจมากมาย

  • Intro: การย้อนรำลึกถึงอดีตที่มืดมิด:

เพลงเปิดต้นด้วยเสียงกีตาร์โปร่ง และเบสซินธิไซเซอร์ที่มีการแต่งจังหวะอย่างช้าๆ สร้างความรู้สึกคลุมเครือ และน่าพิศวง เสียงร้องของ Peter Murphy เริ่มต้นขึ้นในช่วงนาทีที่ 2:45 และได้ขยายไปสู่เนื้อหาเกี่ยวกับ “Bela Lugosi” ดาราภาพยนตร์ยุคทองผู้รับบทเป็นแดรกคูลา

  • Verses:

Peter Murphy ร้อง verse ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ เนื้อเพลงแสดงถึงความเศร้าโศก ความหงุดหงิด และความปรารถนาที่จะหนีจากโลกแห่งความจริง

  • Chorus:

เนื้อเพลง refrain “Bela Lugosi’s Dead” ซ้ำกันหลายครั้ง เสียงร้องของ Murphy และการเล่นกีตาร์ที่รุนแรงขึ้นช่วยเสริมสร้างความรู้สึกหดหู่

  • Bridge: การค่อยๆ สงบลง:

หลังจาก chorus เพลงจะค่อยๆ เคลื่อนไปสู่ส่วน bridge ที่มีความนุ่มนวลและสงบกว่า การใช้งาน sound effects และ synthesizer มีบทบาทสำคัญในการสร้างบรรยากาศที่ลึกลับ

  • Outro: การหลุดออกจากความจริง:

เพลงสิ้นสุดลงด้วย outro ที่ยาวนาน เสียงกีตาร์ ก้องกังหวับไปมา ในขณะที่ Peter Murphy ร้อง verse สุดท้ายด้วยเสียงที่ต่ำและหนักแน่น ส่วนนี้ทำให้ผู้ฟังรู้สึกเหมือนกำลังลอยตัวอยู่ในความฝัน

**อิทธิพลของ “Bela Lugosi’s Dead” ** “Bela Lugosi’s Dead” ถือเป็นเพลงบุกเบิกของแนว Gothic Rock และ Industrial มันได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับวงดนตรีมากมายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

  • The Cure: วงดนตรี Post-Punk ที่ได้รับอิทธิพลจาก Bauhaus อย่างมาก เพลงของ The Cure เช่น “A Forest” และ “Disintegration” แสดงถึงความคล้ายคลึงกันในแง่ของความหดหู่และความลึกลับ

  • Sisters of Mercy: วงดนตรี Gothic Rock อีกวงหนึ่งที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Bauhaus เพลงของ Sisters of Mercy เช่น “Temple of Love” และ “This Corrosion” มีลักษณะที่คล้ายกับ “Bela Lugosi’s Dead” ในแง่ของความหนักแน่นและความย้อนแย้ง

  • Nine Inch Nails: วงดนตรี Industrial Rock ที่นำเสนอเสียงดนตรีที่รุนแรงกว่า เพลงของ Nine Inch Nails เช่น “Closer” และ “Hurt” แสดงถึงอิทธิพลจาก Bauhaus ในแง่ของความหดหู่และการท้าทายต่อขนบธรรมเนียม

สรุป:

“Bela Lugosi’s Dead” เป็นเพลงที่สร้างความประทับใจอย่างลึกซึ้ง มันเป็นเพลงที่เต็มไปด้วยความหมายและอารมณ์ เพลงนี้ได้เปิดโลกดนตรี Industrial ให้กว้างขึ้น และเป็นแรงบันดาลใจให้กับศิลปินจำนวนมาก

ถ้าคุณกำลังมองหาเพลงที่ไม่เหมือนใคร และอยากสัมผัสกับประสบการณ์ทางดนตรีที่ลึกซึ้ง “Bela Lugosi’s Dead” คือเพลงที่ควรค่าแก่การฟังอย่างยิ่ง